เมื่อ”เรือใบ”ผงาด เส้นทางการการแย่งชิงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

01/06/2019 Admin

นี่คือการชิงบัลลังก์ระหว่าง 2 สโมสรที่ถือว่าสูสีที่สุดในประวัติศาสตร์บอลลีกอังกฤษเมื่อ “เรือใบสีฟ้า” และ “หงส์แดง” ต่างฟอร์มโดดเด่น ผลัดกันนำผลัดกันตามมาตลอดทาง

“เรือใยสีฟ้า” ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้นไม่แพ้มาตั้งแต่เดือน ม.ค นับแต่เยือนเซนต์ เมส์ บาร์คของนิวคาสเซิ่ล ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นจัดหักเหของการไล่ล่าแชมป์ไปแล้ว ส่วน “หงส์แดง” พลาดท่าหนเดียวตลอดทั้งซีซั่น ด้วยน้ำมือแชมป์เก่า และมีจุดได้เปรียบ แมนฯซิตี้ อยู่ถึง 7 แต้มในช่วงก่อนปีใหม่ และทำให้สาวก เดอะ ค๊อป มั่นใว่าะสำเร็จเป็นหนแรกในรอบ 29 ปีเสียที แต่เป๊ปและทีมงานที่ประกอบด้วย มิเคล อาร์เตต้า มือขวา และโค้ช โรดอลโฟ่ บอร์เรลล์ ยังคงเชื่อมั่นในประสบการณ์และศักยภาพของลูกทีมว่าจะแก้ไขทุกอย่างให้กลับมาได้ ข้อได้เปรียบของ “ซิตี้” ก้คงไม่พ้นสภาพทัมในแนวลึกที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพทุกตำแหน่งทำให้เป๊ป สามารถโรเตชั่นทีมได้ต่อเนื่อง

ไม่กี่เดือนผ่านไป แมนฯซิตี้ ทวง่าฝูงกลับคืนมาสำเร็จ โดยเฉพาะเกมตกค้างที่พวกเขาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบหวุดหวิด จากลูกยิงไกลมหัศจจรรย์ของ แว็งช็องต์ ก็องปานี ปราการหลังชาวเบลเยียม ประตูโทนในเกมสยบ “จิ้งอกสีน้ำเงิน” ทำให้แมนฯ ซิตี้ นำหน้าลิเวอร์พลูหนึ่งแต้มก่อนเดินลงสนามนัดสุดท้าย ซึ่งทีมของเป๊ปต้องไปเยือน ไบร์ทตัน ขณะที่ลิเวอร์พลูเปิดบ้านรับวุล์ฟแฮมป์ตันที่เล่นกับทีมใหญ่ได้ดัเหลือหลาย เกมที่เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม จึงถูกจับตาไปพร้อมกับแอนฟิลด์ และสถานการณ์เริ่มเขม็งเกลียวขึ้น เมื่อหงส์แดงเป็นฝ่ายขึ้นนำตามคาดจาก ซาดิโอ มาเน่ ส่วนไบรท์ตันนำแชมป์เก่าจากลูกโหม่งของ เกล็น เมอร์เร่ย์

แต่แชมป์เก่าไม่ได้ตื่นตระหนกและตีเสมอได้ในเวลาอันรวดเร็วจาก กุน อเกวโร่ ก่อนพาเหรดยิงเพิ่มอีก 3 ลูกจาก เอมเมอริก ลสป๊อกร์กต์, ริยาด มาห์เรซ ปิดท้ายด้วย อิลคาย กุนโดกัน ต่อให้ลิเวอร์พลู ชนะเหมือนกันที่สกอร์ 2-0 ก็ไร้ความหมาย เท่ากับง่า นับแต่แพ้ที่นิวคาสเซิ่ล เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้า แมนฯซิตี้ ทำสถิติชนะรวด 14 นัดในลีก รวมทั้งเกมยากๆ อย่างบุกไปเก็บ 3 แต้มที่โอลด์ รวมทั้งเกมยากๆ อย่างเก็บไปบุก 3 แต้มที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตอนปลายเดือน มี.ค เช่นเดียวกับการเบียดเบียนชนะด้วยสกิร์ 1-0 อีกหลายนัด ในขณะที่ลิเวอร์พลู แม้เคยเป็นผู้นำอยู่พักใหญ่ แต่ช่วงสะดุดเสมอถึง 4 จาก 6 นัด คือการเปิดโอกาสให้ แมนฯซิตี้ กลับมา และเร่งเครื่องแซงหน้าไปจนได้

สิ่งหนึ่งที่เป๊ปทำอย่างสม่ำเสมอคือการประชุม พร้อบกับกระตุ้นลูกทีมได้ตื่นตัวอยู่เสมอ และไม่ต้องคาดหวังว่า่ลิเวอร์พลูจะพลาดง่ายๆ แม้พวกเขาจะปราบผู้ท้าชิงมาแล้วเมื่อเดือน ม.ค ก็ตาม สุดท้าย แมนฯ ซิตี้ ก็ผานพ้นอุปสรรคมาได้ ด้วยประสบการณ์และความเยือกเย็นของกุนซือและนักเตะ แม้จจะโดนลิเวอร์พลูตามกดดันต่อเนื่อง แถมยังพลาดท่าตกรอบ 8 ทีมแชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยน้ำมือของสเปอร์ส ก็ไม่ได้ทำให้ฟอร์มของทัพเรือใบ สะดุดการป้องกันแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 3 ทศวรรษต่อไป

และนี่คือฤดูกาลที่สมบูรณ์แบบของ “ซิตี้” หลังคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ยังมี เอฟเอ คัพ นัดชิงฯ กับวัตฟอร์ดอีกรายการ ซื้อจะจารึกชื่อ แมนฯ ซิตี้ กับการคว้า 3 แชมป์ในประเทศในซีซั่นเดียวกันเป็นทีมแรกหรือไม่  ศึกนี้เพิ่งสิ้นสุด แต่สงครามจจะเริ่มขึ้นใหม่ในฤดูกาล 2019-20 ซึ่งส่อแววเข้มขั้นตั้งแต้่ไม่เริ่มต้นแล้ว

 

 

 

Tags : , , , , , , , ,
Leave Comment