เทนฮากเปิดตัวหรู! แมนยูดาหน้าถลุงลิเวอร์พูล ชูโทรฟี่”The Match”ในไทย

13/07/2022 Admin

เอริก เทน ฮาก ประเดิมคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างสวยหรูด้วยการถล่ม คู่อริอย่าง ลิเวอร์พูล กระจุย 4-0 โดยเป็นการรัวไม่ซ้ำหน้า ซานโช่, เฟร็ด, มาร์กซิยาล และ เปยิสตรี้ ซัดคนละตุง ในศึก เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่ คัพ 2022 เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่ คัพ 2022 ประจำวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้มีคอนเสิร์ต “แจ็คสัน หวัง” ศิลปินที่มาร่วมแสดงเปิดการแข่งขันในเกมดังกล่าว พร้อมมี มิลลิ แร็ปเปอร์หญิงชาวไทยมาร่วมแจมด้วย

แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก จะลงประเดิมคุมทัพผีแดงเป็นนัดแรก โดย 11 ตัวจริงจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามนำโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่รับบทกัปตันทีมแทน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ฟิตไม่เต็มร้อยไม่มีชื่อในเกมนี้ ขณะที่ ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้ายคนใหม่ชาวดัตช์มีชื่อเป็นตัวสำรอง

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จัด 11 ตัวจริงเป็นทีมชุดผสมส่ง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งคนใหม่ลงประเดิมสนามเป็นนัดแรก โดยแนวรุกใช้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า

ครึ่งแรกเริ่มเกมมาได้ 3 นาที เป็น ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ลำเลียงบอลขึ้นมาแล้วปาดไปฝั่งขวาให้ บาบาย่า กระชากหนี ลุค ชอว์ แล้วเปิดเข้ากลางประตูทว่า เด เคอา ใช้ขาสกัดไว้ได้ทัน

จนกระทั่งนาทีที่ 13 แมนยู ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อิซัค มาบาย่า โหม่งสกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทางปืนของ เจดอน ซานโช่ ปั่นด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไป

นาที 18 ลิเวอร์พูล เกือบจะได้ประตูตามตีเสมอจากจังหวะที่ ไทเลอร์ มอร์ตัน ได้กดด้วยซ็ายในเขตโทษบอลพุ่งไปชนเสา ก่อนที่บอลจะไปเข้าทาง หลุยส์ ดิอาซ ลากบอลมาปั่นด้วยขวาบอลหลุดเสาไกลไปนิดเดียว

ทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาที 24 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาแล้วเป็น โจ โกเมซ ที่สอดมาโหม่งบอลหลุดเสาแรกออกไป

แมนยู บุกใส่อย่างหนักจนมาได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาที 30 จากจังหวะชุลมุนหน้าปากประตู ลิเวอร์พูล ก่อนที่บอลจะกระดอนมาเข้าทางปืนของ เฟร็ด ที่บรรจงชิพด้วยขวาส่งบอลข้ามหัว อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น

หลังจากนั้น นาที 33 เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดการเปลี่ยนตัวยกแผงส่งผู้เล่นอีกชุดนึงลงมา 10 คนทั้ง โจแอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส, เมลกามู ฟอยดอฟ, รีสส์ วิลเลี่ยมส์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์, เลย์ตัน คลาร์กสัน, บ๊อบบี้ คลาร์ก และ สตีเฟ่น บาจเซติค ลงสนาม

อย่างไรก็ตาม นาที 33 อองโตนี่ มาร์กซิยาล ตัดบอลได้ที่กลางสนามแล้วกระชากหลุดเข้าเขตโทษไปยิงผ่านมือ อลีสซง ส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปให้ “ปีศาจแดง” นำห่าง 3-0

นาที 37 ดิโอโก้ ดาโลต์ หลุดเข้าเขตโทษมากดด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือยังเป็น แมนยู ที่ครองเกมได้เหนือกว่า และสามารถปิดเกมในครึ่งแรกขึ้นนำ ลิเวอร์พูล ห่างถึง 3-0

ครึ่งหลัง แมนยู จัดการเปลี่ยนตัวยกแผงเช่นกันส่งทั้ง ไทเรลล์ มาลาเซีย, แอนโธนีย์ อีลังก้า, อเล็กซ์ เตลลิส, เอริค ไบยี่, แอรอน วาน-บิสซาก้า, ดอนนี่ ฟาน เดอเบ็ค, ชาลี ซาเวจ, ซีดาน อิคบัล, ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ลงสนาม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ส่ง อาเดรียน ลงมาเล่นแทน อลีสซง

จากนั้น นาที 61 แฟนหงส์ในราชมังฯ ได้ส่งเสียงเฮกันบ้างเมื่อ คล็อปป์ แก้เกมส่งทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบินโญ่, เฟอร์จิล ฟานไดค์, อิบราฮิม โกนาเต้, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, นาบี เกอิต้า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ โธมัส ฮิลล์

หลังจากเริ่มครึ่งหลังมาพักใหญ่ “หงส์แดง” กลายเป็นฝ่ายพับสนามบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาที 70 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลมาให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดมาในกรอบฝั่งขวาแล้วตะบันเต็มข้อยังติดเซฟของ ทอม ฮีตัน ปัดทิ้งออกมาได้

อย่างไรก็ตาม แมนยู ที่เกมเป็นรองใช้จังหวะสวนกลับทีเด็ดขาดขึ้นนำห่างเป็น 4-0 ในนาที 76 เมื่อ ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ ทำชิ่งกับ อาหมัด ดิยัลโล่ ก่อนจะจ่ายคืนมาให้ปีกชาวอุรุกวัยที่หน้าปากประตูได้ซัดระยะเผาขนไม่เหลือ

นาที 80 แมนยู ได้บุกขึ้นมาอีกชุดบอลมาถึง แอนโธนี่ อีลังก้า ลองปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลเหินข้ามคานออกไป

ช่วงท้ายเกมนาที 86 แนวรับ แมนยู สกัดบอลไม่ขาดไปเข้าทางของ นาบี เกอิต้า ที่ได้กดด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่บอลยังเหินข้ามคาน

นาที 87 ลิเวอร์พูล ชวดตามตีไข่แตกอย่างน่าเสียดายเมื่อ โม ซาลาห์ บรรจงปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนเสากระดอนมาเข้าทาง ดาร์วิน นูนเญซ ตามซ้ำจ่อๆบอลข้ามคาน

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม ลิเวอร์พูล 4-0 โดยยอดผู้ชมการแข่งขันในเกมนี้มีทั้งสิ้น 50,248 คน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (ทอม ฮีตัน น.68) – ดิเอโก้ ดาโลต์ (แอรอน วาน-บิสซาก้า น.46), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (อเล็กซ์ เตลลิส น.46), ราฟาแอล วาราน (เอริค ไบยี่ น.46), ลุค ชอว์ (ไทเรลล์ มาลาเซีย น.46) – เฟร็ด (ชาร์ลี ซาเวจ น.46), สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (ซีดาน อิคบัล น.46) – อองโตนี่ มาร์กซิยาล (อาหมัด ดิยัลโล่ น.46), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค น.46), เจดอน ซานโช่ (ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ น.46) – มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอนโธนี่ อีลังก้า น.46)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ (อาเดรียน น.46) – อิซัค มาบาย่า (เมลกามู ฟอยดอฟ น.32), นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ (โจแอล มาติป น.32), โจ โกเมซ (รีซ วิลเลี่ยมส์ น.32), ลุค แชมเบอร์ส (คอสตาส ซิมิคาส น.32) – ไทเลอร์ มอร์ตัน (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น.32), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เลย์ตัน คลาร์กสัน น.32), ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.32) – ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (สตีเฟ่น บาจเซติค น.32), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (บ๊อบบี้ คลาร์ก น.32), หลุยส์ ดิอาซ (เคอร์ติส โจนส์ น.32)

Tags : , , , , , , , , , , ,
Leave Comment